สิทธา คุ้มวงศ์วาน
University College London

ในช่วงที่ทุกคนต้องอยู่บ้านเช่นนี้
เรามั่นใจว่าหลายๆคนโดยเฉพาะนักเรียนในสหราชอาณาจักรต้องคิดถึงบรรยากาศการออกนอกเมืองอันวุ่นวายไปเที่ยวอย่างแน่นอน ดังนั้นในซีรีส์ “เที่ยวทิพย์” นี้ เราจะพาไปเที่ยวรอบสหราชอาณาจักร แบบทิพย์ๆ เพื่อคลายความอยากไปเที่ยวให้กับทุกคน (เอ๊ะ! หรือว่าจะทำให้อยากไปมากกว่าเดิมกันน้าาา) และเสนอที่เที่ยวใหม่ๆให้ทุกคนได้ปักหมุดไว้เที่ยวกันหลังโควิด
โดยที่แรกที่เราจะพาไป คือ การไปตามล่าหาแมวน้ำในธรรมชาติที่เมือง Horsey ใน Norfolk นั่นเอง! ทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้วที่เราได้ไปพักผ่อนที่ Norwich และได้ข่าวว่ามีแมวน้ำให้ดูที่เมือง Horsey เราก็เลยหาข้อมูลว่าจะไปดูได้อย่างไร
ปรากฏว่าทางเดียวที่คนไม่มีรถอย่างเราไปได้ก็คือต้องนั่ง Uber ไปถึงริมหาดที่เมือง Horsey เลย ซึ่งแพงมาก เราเลยหาเส้นทางที่ถูกกว่านั้น พบว่ามีเส้นทางศึกษาธรรมชาติจากเมือง Winterton-on-Sea ซึ่งอยู่ทางใต้ของ Horsey ที่มีรถประจำทางไปถึงได้ ให้สามารถเดินไปยัง Horsey ได้เลยโดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่ามาก แน่นอน คนประหยัดอย่างเราก็ต้องเลือกเส้นทางนี้ และทริปตัวคนเดียวสุดหรรษาในหนึ่งวันก็เริ่มต้นขึ้น
เราตื่นแต่เช้ามาขึ้นรถไฟจาก Norwich ไปยังเมือง Great Yarmouth เพื่อต่อรถไปยัง Winterton-on-Sea เมือง Great Yarmouth เองก็เป็นเมืองท่าที่ใหญ่ประมาณหนึ่ง มีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำด้วย ถ้าใครมีเวลาจะแวะเที่ยวก็ไม่เสียหลาย เดินจากสถานีรถไฟมาหน่อยก็จะเจอกับ Bus station ที่จะพาเราไป Winterton-on-Sea นั่งรถประจำทางสาย 1 ไปสักครึ่งชั่วโมงก็จะถึงตัวเมือง Winterton-on-Sea เมืองนี้เป็นหมู่บ้านเล็กๆริมทะเลอันแสนสงบ มีป้ายชื่อเมืองที่น่ารักอยู่หน้าจุดจอดรถประจำทางเลย

เดินออกจากเมืองมาทางทะเล ก็จะเริ่มเห็นแนวสันทรายขนาดยักษ์ตามในรูปเลยที่พาดกั้นเรากับทะเลไว้
หากเดินไปสุดถนนก็จะได้เห็นหาดของ Winterton-on-Sea
ที่บางฤดูก็มีแมวน้ำมานอนอาบแดดด้วยเหมือนกัน ที่นี่มีร้านกาแฟเล็กๆให้นั่งชมวิวด้วยแหละ
แต่เราทานข้าวมาก่อนเลยไม่ได้แวะเข้าไปนั่ง


วันนี้เราจะเลือกเดินตามเส้นทางที่ทาง Millfarm-Ecobarn ได้เสนอไว้ โดยเราเลือกเส้นทางที่ 5 ดังในรูปเลย เพื่อนๆสามารถเลือกเดินตามเส้นทางอื่นเพื่อสำรวจเมือง Winterton-on-Sea ได้อย่างหลากหลาย ทั้งด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติ ได้ตามลิงก์นี้เลย https://www.millfarm-ecobarn.co.uk/wp-content/uploads/Winterton-Walks.pdf โดยเส้นทางที่ 5 นี้จะพาเราเดินไปยังเมือง Horsey ผ่านแนวสันทรายขนาดยักษ์เพื่อไปชมแมวน้ำที่ Horsey Gap และแวะเข้าวนเที่ยวดูเมือง Horsey ก่อนเดินกลับมาทางเดิม เป็นระยะทางทั้งสิ้น 11 ไมล์ หรือ 17.7 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 5.5 ชั่วโมง! หลายคนเห็นระยะทางอาจเริ่มท้อ แต่เราสามารถเดินไปถึงแค่ Horsey Gap เพื่อดูแมวน้ำในระยะทางสุทธิ 7.5 ไมล์ก็ได้เช่นกัน

เราเดินกลับจากหาดทรายมาเข้าทางเข้าที่อยู่ในหมู่บ้าน เส้นทางจะพาเราเข้าไปยังในแนวสันทรายขนาดยักษ์ที่เกิดจากการทับถมของตะกอนทรายที่ถูกพัดพามาทางลมและทะเลเป็นระยะเวลานานจนสูงเหมือนภูเขาเลย เมื่อสันทรายริมทะเลก่อตัวสูงขึ้นมากๆมันก็บังลมและทำให้ระบบนิเวศด้านหลังสันทรายรอดพ้นจากลมแรงและเติบโตเป็นป่าขึ้นมาได้
ที่จุดเริ่มต้นยังมีป้ายบอกเส้นทางพร้อมรายละเอียดสัตว์ที่จะพบได้ในเส้นทางอีกด้วย!
วันนี้เราจะได้เห็นครบทุกชนิดไหมนะ?

ต้องขอบอกว่าเส้นทางเดินนั้นง่ายและสะดวกมาก เป็นทางเดินดินตัดกับหญ้ารอบข้างชัดเจน และมีชาวบ้านพาน้องหมามาเดินเล่นบ้าง พูดเลยว่าชาวบ้านที่นี่น่ารักมาก ทักทายอย่างยิ้มแย้มตลอดทุกคนที่เดินสวนกันเลย น้องหมาก็น่ารักมากๆ ที่นี่ห้ามปล่อยหมาวิ่งโดยไม่มีสายจูง เพื่อป้องกันน้องหมาไปงับสัตว์ป่าในพื้นที่นั่นเอง ตลอดเส้นทางเราจะได้รับความสงบมากๆ ได้เห็นวิวภูเขา ทรายสีน้ำตาล และมีหญ้า Marram Grass ที่ทนความเค็มได้สูงขึ้นปกคลุม เหมือนกับอยู่ในทุ่งหญ้าสะวันนา แต่ว่าอากาศเย็นสบายกว่ามากและมีลมโกรกตลอดเวลา อีกฟากก็จะเป็นป่า Heather ซึ่งเป็นไม้พุ่มที่ทนเค็มได้มาก มีหนามแหลมและมีดอกสีเหลืองสดใส ตัวเราที่เดินอยู่ระหว่างป่าสูงกับภูเขาทรายรู้สึกเหมือนได้ตัดขาดอยู่ในโลกส่วนตัวไปซักพักเลย เหมาะมากๆสำหรับคนที่อยากปล่อยตัวปล่อยใจไปกับธรรมชาติ



ระหว่างทาง เราได้เจอสัตว์ป่ามากมาย ทั้งนกยอดหญ้าหัวดำพันธุ์ยุโรป (European Stonechat) กระต่ายป่า (Hare) นกนางนวลแกลบเล็ก (Little Tern) และนกกิ้งโครงพันธุ์ยุโรป (Common Starling) จำนวนมาก สัตว์ต่างๆอาจอยู่ไกลนิดนึง และอาจต้องอาศัยกล้องส่องทางไกลในการดูให้ชัด แต่แค่เราเห็นด้วยตาเปล่าก็น่าประทับใจแล้ว อย่างเช่นกระต่ายป่าที่เราไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นมันวิ่งข้ามสันทรายได้ไวเหมือนรถแข่ง Formula One หรือฝูงนกกิ้งโครงที่พากันบินทีละพันกว่าตัว พฤติกรรมอย่างนี้หาได้เฉพาะในพื้นที่ธรรมชาติกว้างๆแบบที่นี่เท่านั้น


เราเดินชมธรรมชาติเพลินๆมาเกือบ 3 ชั่วโมง ก็มาถึงจุดชมแมวน้ำ! จุดชมแมวน้ำจะมี 2 จุด ลักษณะเหมือนกันคือมีป้ายแนะนำการปฏิบัติตนเมื่อชมแมวน้ำอยู่ด้านหน้าและมีบันไดไม้พาขึ้นไปบนสันทรายเพื่อชมแมวน้ำจากบนนั้น



เมื่อขึ้นไปถึงยอด เราก็ได้พบกับแนวหินขนาดใหญ่ตลอดแนวหาด แต่เมื่อหินเหล่านั้นขยับตัว เราก็พบว่ามันคือแมวน้ำสีเทา (Grey Seal) นั่นเอง! ฝูงแมวน้ำนับร้อยนอนเรียงกันยาวตลอดชายหาด เป็นภาพที่น่าตกตะลึงมาก และยิ่งมันห่างจากเราแค่ประมาณ 30 เมตรเท่านั้น เป็นความรู้สึกที่สุดยอดมากๆ เราเอากล้องส่องทางไกลไปด้วย เลยได้ดูพฤติกรรมน้องแบบชัดเจน ใครไม่มีแนะนำให้ลองหายืมเพื่อน (ถ้ามี) ก่อนไปนะ ไม่ก็เอากล้องเลนส์ซูมไกลๆไปตามถ่ายได้
พอส่องดูไปสักพัก ก็พบว่าน้องคือน้องหมาขี้เกียจแห่งท้องทะเลที่แท้จริง น้องส่วนใหญ่จะหลับปุ๋ย เพื่อนมากวนก็ไม่ตื่น แต่ตัวที่ตื่นก็ไฮเปอร์มาก กระดึ๊บเล่นไปทั่ว หันหน้ามองกล้องตาแป๋ว มีแยกเขี้ยวโชว์ด้วย น้องหลายตัวก็ดำผุดดำว่ายหาปลาเล่นในทะเล คือดูแล้วไม่เบื่อเลย น้องหน้าเหมือนหมามากๆ บางตัวก็เห่าเป็นหมาเลย เราหยิบกล่องข้าวกลางวันมานั่งกินพร้อมชมแมวน้ำไปชั่วโมงกว่าๆยังไม่รู้สึกเบื่อเลย น้องลีลาเยอะมาก จะขอคัดภาพที่น่ารักๆมาให้ดูดังนี้เลย












จะเห็นว่าน้องมีลวดลาย สีสัน และขนาดที่แตกต่างกันมากๆ แต่ทั้งหมดล้วนเป็นสายพันธุ์ Grey Seal โดยที่จริงๆมีอีกชนิดที่พบได้น้อยกว่า คือ Common Seal ที่หน้าตาจะเหมือนชิบะมากกว่า คือ จมูกสั้นหน้าสั้น แต่ทริปนี้เราไม่ได้เห็นเลย
ก่อนที่จะเดินทางกลับ เราได้แวะเข้าไปดูเมือง Horsey เล็กน้อย ถ้าเปรียบสันทราย Winterton-on-Sea เป็นสวรรค์สีน้ำตาล ที่นี่ก็เป็นสวรรค์สีเขียวเลย ทุ่งข้าวสาลีกว้างไกลเขียวขจี ตัดกับแนวคลองส่งน้ำที่สะท้อนแสงสีทอง เป็นภาพบรรยากาศที่ใครๆก็อดใจไม่ถ่ายรูปไม่ได้จริงๆ เมื่อเข้าไปในเมืองก็จะมีกังหันลมโบราณ Horsey Windpump ที่ใช้ผันน้ำเข้าสู่แอ่งน้ำ Horsey Mere ที่มีบริการเรือนำเที่ยวอีกด้วย แต่ด้วยเวลาที่จำกัด เราเลยไม่ได้เข้าชมตรงจุดนั้น ใครมีเวลาก็สามารถนั่งเรือเที่ยวได้ เป็นพื้นที่ของ National Trust





สุดท้ายแล้วเราก็เดินทางกลับทางเดิม โดยเผื่อเวลาเดินกลับไว้อีก 3 ชั่วโมง และขึ้นรถประจำทางไปต่อรถไฟ กลับไป Norwich โดยสวัสดิภาพ ทริปนี้เสียเงินแค่ค่ารถจริงๆ ถูกมาก แต่ประสบการณ์ที่ได้คือไม่มีวันลืม ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่มันเยียวยาจิตใจได้จริงๆ
ทั้งนี้ ใครสนใจมาเที่ยวชม สามารถศึกษาข้อมูลและคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่ https://www.friendsofhorseyseals.co.uk/ และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคระบาดอย่างเคร่งครัดในการเข้าชม เราหวังว่าทุกท่านจะประทับใจในความตื่นตาของสันทรายและความนุ่มฟูของน้องแมวน้ำกัน และพบกันใหม่กับเที่ยวทิพย์ EP. หน้าได้เร็วๆ นี้!
คำแนะนำ
การเดินทาง: อย่าลืมใช้ Railcard ลดค่าตั๋วรถไฟ และแนะนำให้ซื้อตั๋วรถประจำทางแบบรายวันไปก่อนทาง First Bus เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง
การแต่งกาย: ควรใส่กางเกงขายาวเพื่อป้องกันหญ้าบาดและทรายเข้าไปในกางเกง ควรใส่รองเท้าหุ้มส้นที่กันข้อพลิก เพราะสันทรายบางจุดไม่มั่นคงและอาจลื่นได้
การปฎิบัติตนเมื่อชมแมวน้ำ: ควรชมแมวน้ำโดยอยู่ห่างอย่างน้อย 10 เมตร ไม่ทำเสียงดังหรือก่อกวนแมวน้ำด้วยวิธีใดก็ตาม และไม่ทิ้งขยะไว้ในพื้นที่
ช่วงเวลาที่เหมาะสม: แมวน้ำจะอยู่ที่หาดเกือบตลอดวัน และอยู่ตลอดทั้งปี แต่จะมารวมตัวกันมากที่สุดในช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถึงมกราคม ทั้งนี้ เวลาที่เราไปคือปลายเดือนมีนาคม และยังเห็นแมวน้ำจำนวนมากอยู่ จึงกล้ารับประกันว่าไปเมื่อไหร่ก็เจอแมวน้ำ
ข้อควรระวัง: ตลอดเส้นทางจะไม่มีห้องน้ำและถังขยะใดๆทั้งสิ้น แนะนำให้เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยที่ Winterton-on-Sea และหาพุ่มไม้เข้าระหว่างทาง เก็บขยะไว้กับตัวเพื่อนำกลับมาทิ้งที่ Winterton-on-Sea และกรุณาจับเวลาการเดินของตนเองระหว่างขามา เพื่อที่จะได้เผื่อเวลาเดินกลับได้ทันในขากลับ เพราะความเร็วในการเดินของแต่ละคนไม่เท่ากัน เพื่อป้องกันการหลง สามารถใช้ Google Map นำทางได้เนื่องจากพื้นที่มีอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ควรห่อข้าวกลางวันและเตรียมน้ำดื่มไปให้เพียงพอ เนื่องจากอาหารในพื้นที่มีตัวเลือกจำกัด
ร่วมส่งบทความเป็นส่วนหนึ่งของสามัคคีสาร
คุณเองก็สามารถเผยแพร่บทความของตนเองในสามัคคีสารได้ ขอเพียงคุณมีใจรักการเขียน ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นโยบายการส่งบทความของสามัคคีสาร แล้วอย่าลืมส่งบทความกันเข้ามาเยอะๆ นะคะ